กรุงเทพมหานคร – หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) จัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการสำหรับนักศึกษาในรายวิชา IE4022102 นโยบายและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ทางการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้เครื่องมือการบริหารจัดการสมัยใหม่ Balanced Scorecard (BSC) สำหรับการวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาในบริบททางการศึกษา
กิจกรรมดังกล่าวอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ อาจารย์ ดร.ธิติ ธาราสุข อาจารย์ผู้สอนประจำรายวิชา และได้รับเกียรติจาก ดร.ศกลวรรณ พาเรือง หัวหน้าห้องปฏิบัติการฐานสมรรถนะ เป็นที่ปรึกษาโครงการ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสมรรถนะของมหาบัณฑิตในฐานะผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาในอนาคต ให้สามารถบูรณาการองค์ความรู้เชิงทฤษฎีเข้ากับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิผล นักศึกษาได้ดำเนินกระบวนการวิเคราะห์ประเด็นปัญหาทางการศึกษาที่สำคัญ อาทิ ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในสาระวิชาหลักที่ตกต่ำและผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ จากนั้นจึงนำหลักการของ BSC มาใช้ในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (Strategic Objectives) ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก (Key Performance Indicators) และแผนงานริเริ่ม (Initiatives) ที่ครอบคลุมทั้ง 4 มุมมอง โดยมีโครงการที่น่าสนใจ เช่น การพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC), การปรับกระบวนการเรียนรู้สู่รูปแบบ Active Learning และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม English Day และค่ายวิชาการ
อาจารย์ ดร.ธิติ ธาราสุข ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมว่า “สมรรถนะสำคัญประการหนึ่งของผู้บริหารการศึกษาสมัยใหม่ คือความสามารถในการคิดเชิงกลยุทธ์และการเลือกใช้เครื่องมือทางการบริหารที่เหมาะสมกับบริบท กิจกรรมนี้จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นเวทีให้นักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะผ่านสถานการณ์จำลอง ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจเชิงลึกว่า Balanced Scorecard มิได้เป็นเพียงกรอบแนวคิดทางทฤษฎี แต่เป็นเครื่องมือเชิงปฏิบัติการที่ทรงประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนองค์กรการศึกษาให้บรรลุเป้าหมายและสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน”
ในมุมมองของนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้สะท้อนว่า “กิจกรรมนี้ช่วยให้เกิดความเข้าใจอย่างเป็นรูปธรรมต่อกระบวนการแปลงนโยบายและแผนไปสู่การปฏิบัติ ทำให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลระหว่างมิติต่างๆ เช่น การพัฒนาครู (Learning & Growth) ย่อมส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของกระบวนการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน (Internal Process) และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนที่สูงขึ้นในที่สุด (Stakeholder Perspective) ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการประกอบวิชาชีพผู้บริหารในอนาคต”
กิจกรรมการเรียนรู้เชิงบูรณาการนี้ สอดคล้องกับปรัชญาของหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา ที่มุ่งผลิตมหาบัณฑิตให้เป็นผู้บริหารมืออาชีพที่มีความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้ ทักษะการบริหารจัดการ และมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาแวดวงการศึกษาของประเทศ
อนึ่ง การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ รศ.ดร.รุ่งอรุณ พรเจริญ คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ (Practice-based Learning) และการสร้างเสริมประสบการณ์ตรงให้แก่นักศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นนักบริหารมืออาชีพอย่างเต็มศักยภาพ